ถึงแม้ว่าการทำการตลาดผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ในช่วงปีหลังจะเป็นอะไรที่ฮิตมาก เนื่องจากราคาถูกและเข้าถึงกับลูกค้าได้ใกล้ชิดมากกว่า แต่การทำการตลาดผ่าน Serch Engine อย่าง Google ก็ยังคงเป็นอีกเรื่องที่สำคัญเนื่องจากโซเชียลมีเดียต่างๆ เป็นเหมือนบ้านเช่าที่เราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง หากเรามีเว็บไซต์ที่เปรียบเสมือนบ้านของตัวเองที่มั่นคงไว้อย่างน้อยหนึ่งก็ย่อมดีกว่าแน่ และสิ่งที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ก็คือ การทำการตลาดผ่าน Google Ads ต่างกับ Google SEO อย่างไร
Google Ads และ Google SEO คืออะไร
Google Ads เป็นบริการอย่างหนึ่งของ Google ที่มีค่าใช้จ่ายคิดค่าบริการเป็นต่อคลิก โดยจะใช้ Keyword เป็นตัวดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามา หากกลุ่มเป้าหมายเจอโฆษณาแล้วคลิกเข้ามาก็จะถูกนำไปคิดเป็นค่าบริการ
Google SEO เป็นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้เกี่ยวข้องกับคำค้นหาใน Search Engine เพื่อให้อันดับการค้นหาถูกจัดขึ้นไปอยู่ในอันดับต้นๆ หรือหน้าแรกๆ ของ Search Engine อย่าง Google ไม่ใช่บริการจากทาง Google และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้แก่ Google
Google Ads ต่างกับ Google SEO อย่างไร
เข้าสู่ช่วงหัวข้อสำคัญ ถ้าจะพูดถึงความต่างของทั้ง 2 อย่าง เรียกได้ว่า แทบจะต่างกันโดยสิ้นเชิง
งบประมาณ/ค่าบริการ ในส่วนตรงนี้ Google SEO ถือว่าได้เปรียบกว่ามาก เนื่องจาก การทำ SEO ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้แก่ Google ในขณะที่ Google Ads ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากและไม่มีการการันตีว่ายอดคลิกที่เข้ามาจะสั่งซื้อหรือใช้บริการจากเราหรือไม่
ระยะเวลาในการทำ Google Ads สามารถทำให้คุณติดอันดับอยู่ที่หน้าแรกๆ ได้รวดเร็วทันใจ ในขณะที่การทำ SEO ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจากผลการทำแบบ Organic แต่ถ้าเทียบกับระยะเวลาที่จะยังคงอยู่การทำ SEO สามารถอยู่ได้ยาวนานและยั่งยืนกว่าการทำ Google Ads โดยแบบ Google Ads จะสิ้นสุดเมื่อเราสั่งยกเลิกกับ Google แล้ว
การวัดผล Google Adsมีระบบที่คุณสามารถวัดผลได้จากข้อมูลต่างๆที่ Google เก็บรวบรวมจากการคลิกแต่ละคลิกมีรายละเอียดที่ค่อนข้างชัดเจน ส่วน SEO จำเป็นที่จะต้องวัดผลจากระบบหลังบ้าน ควรมีคนที่เชี่ยวชาญด้านระบบเว็บไซต์ หรือ SEO คอยตรวจสอบ วัดผล และเก็บข้อมูลเป็นประจำ
การทำการตลาดผ่าน Google ทั้ง 2 แบบก็มีความแตกต่างกันไป ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ โดยหากคุณเป็นกิจการเล็กต้องการความรวดเร็วอาจเลือกใช้ Google Ads แต่หากคุณเป็นกิจการใหญ่หรือต้องการให้อยู่แบบคงทนยั่งยืน แนะนำให้ทำ SEO หรือทั้ง 2 แบบควบคู่กันไป เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกับกิจการของคุณมากที่สุด